1.1 ความหมายของการจัดซื้อ
การจัดซื้อ ( Purchasing ) หมายถึงการดำเนินกิจกรรมเพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการ วัตถุดิบ ตลอดจน
เครื่องจักร เครื่องมือ เพื่อต้องการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของธุรกิจ โดยทั่วไปในทางธุรกิจ แบ่งการจัดซื้อ
ออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่
1. การซื้อเพื่อจำหน่าย
2 . การซื้อเพื่อใช้หรือเปลี่ยนสภาพ
1.2 ความสำคัญของการจัดซื้อ มีอยู่ 6 ประเภท คือ
1. กำไรของกิจการ
2. ประสิทธิภาพของการดำเนินงาน
3. ภาพลักษณ์ของกิจการ
4. การแข่งขันของการตลาด
5. การรับรู้ข้อมูลของกิจการ
6. กลยุทธ์ของกิจการและนโยบายทางสังคม
1.3 วัตถุประสงค์ของการจัดซื้อ มี 3 ประการ คือ
1. เพื่อให้กิจการมีสินค้า วัตถุดิบ เครื่องจักร อุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้ใช้โดยไม่ขาดมือ
2. เพื่อให้กิจการได้รับสินค้าในเวลาอันสมควรคุณภาพถูกต้อง ปริมาณเหมาะสม
3. เพื่อเป็นการบริหารเกี่ยวกับการเงิน ไม่ให้จมอยู่กับสินค้าคงเหลือมากเกินไป และไม่ต้องเสี่ยงภัยกับ
สินค้าด้วย
1.4 การเจริญเติบโตของงานจัดซื้อ
1. ด้านการจัดหน่วยงาน มีงานหลักอยู่ 3 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายขาย ฝ่ายผลิต และฝ่ายการเงิน สำหรับฝ่าย
จัดซื้อขึ้นอยู่กับแผนกผลิต
กระบวนการจัดซื้อของหน่วยงาน ประกอบด้วย
– การวิเคราะห์การใช้วัตถุดิบของบริษัท
– การประเมินสถานะผู้ขาย
– การตรวจสอบวัสดุ
– การตรวจสอบการรวมกลุ่มจัดซื้อวัตถุดิบ
– การตรวจสอบผู้ขายรายอื่นที่มีข้อเสนอดีกว่า
2. ด้านการแบ่งงานและบุคคลที่ทำหน้าที่ เมื่องานด้านการจัดซื้อเริ่มเป็นระบบ ก็ได้มีการ เก็บ
รวบรวมข้อมูล ศึกษาการเปลี่ยนแปลงของตลาดเกี่ยวกับความต้องการของผู้ซื้อที่เป็นไปตามฤดูกาล เพื่อ
เป็นแนวทางในการจัดซื้อ โดยเลือกซื้อวัตถุดิบที่มีมาตรฐานมาใช้ และมีการพัฒนาสัมพันธภาพอันดี
กับผู้ขาย ในปัจจุบันแผนกจัดซื้อเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ขึ้นโดยตรงต่อผู้จัดการใหญ่
1.5 หลักเบื้องต้นในการจัดซื้อ
การจัดซื้อมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กิจการได้รับสินค้า วัตถุดิบ เครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆได้ ในเวลา อัน
สมควรและมีความถูกต้องเหมาะสมมากที่สุด การจัดซื้ออย่างถูกต้องเหมาะสมกระทำได้ 5 ประการ ได้แก่
1. ซื้อให้ได้คุณภาพที่ถูกต้อง ( Right Quality )
– การกำหนดคุณภาพ
– การจัดซื้อ
– การตรวจรับวัสดุ
2. ซื้อให้ได้จำนวนที่ถูกต้อง ( Right Quantity ) อันประกอบด้วย
– การพิจารณาราคาของสินค้า
– การพิจารณาจำนวนการซื้อแต่ละครั้ง
– การพิจารณาค่าใช้จ่ายในการซื้อแต่ละครั้ง
3. การซื้อจากผู้ขายที่ถูกต้อง ( Right Source of Supply ) พิจารณาจาก
– ปัจจัยที่ใช้ในการพิจารณาเลือกแหล่งขาย
– ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งขาย
– ปัญหาเกี่ยวกับการเลือกผู้ขาย
4. ซื้อในราคาที่ถูกต้อง ( Right Price ) พิจารณาจาก
– ราคาที่มีความสัมพันธ์กับต้นทุน
– ราคาที่เกิดจากอุปสงค์และอุปทาน ( Demand and Suppy )
– ราคาอันเกิดจากการแข่งขัน
1.6 การดำเนินงานในการจัดซื้อ
การดำเนินงานนี้เป็นหน้าที่โดยตรงของแผนกจัดซื้อที่จะต้องดำเนินการ โดยมีขั้นตอน ดังนี้
1. รับรู้ถึงความต้องการ
2. กำหนดรายละเอียดของวัสดุ
3. เลือกแหล่งขาย
4. กำหนดราคา
5. การออกคำสั่งซื้อ
6. การติดตามคำสั่งซื้อ
7. การตรวจสอบการเรียกเก็บเงิน
8. บันทึกผลการจัดซื้อ
1.7 แนวโน้มการจัดซื้อในปัจจุบัน
ฝ่ายจัดซื้อต้องทำความเข้าใจกับแนวโน้มที่มีอิทธิพลต่อการจัดซื้อ ในด้านต่อไปนี้
1. การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดซื้อ
2. การผลิตสินค้าเน้นที่คุณภาพ
3. การลดต้นทุนเพื่อความได้เปรียบคู่แข่งขัน
4. การลดจำนวนแหล่งผู้ขาย
5. ใช้การเจรจาต่อรองแทนการประมูลราคา
6. พัฒนาแหล่งจัดซื้อจากต่างประเทศ
7. สนองความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด
8. การเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ทางด้านการตลาด อยู่เสมอ
1.8 นโยบายการจัดซื้อ
ฝ่ายจัดซื้อต้องมีการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการจัดซื้อ ดังนี้
1. การผลิตเองหรือการซื้อมา
2. การซื้อจากแหล่งเดียวกันหรือหลายแหล่ง
3. การซื้อจากผู้ผลิต
4. ใช้การเจรจาต่อรอง
5. สัญญาสิ้นเปลืองระยะยาว
6. การซื้อต่างตอบแทน
7. ส่วนลดการซื้อ
8. การรวมกันซื้อ
9. การซื้อล่วงหน้า
10. การซื้อตามงบประมาณ
1.9 งานที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อ
นอกจากงานในหน้าที่การดำเนินการด้านการจัดซื้อแล้ว ยังมีหน้าที่หรืองานด้านอื่นๆ อีก
เพื่อช่วยในการอำนวยความสะดวกให้สิ่งที่จัดซื้อนั้นนำมาใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์งานดังกล่าว
มีดังนี้
1. การขนส่ง
2. การรับและการเก็บรักษาวัสดุ
3. การจำหน่ายของเหลือใช้และของเสีย
แหล่งที่มาของข้อมูล
หนังสือการจัดซื้อเบื้องต้น ของ สุดาทิพย์ ตันตินิกุลชัยและศุภวัฒน์ ตันตินิกุลชัย